เมื่อถูกจับบุหรี่ไฟฟ้าต้องทำอย่างไร

อัพเดทใหม่ล่าสุดเมื่อ 25 มิถุนายน 2025

แม้จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน แต่ในประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้ายังคงผิดกฎหมาย ในหลายกรณี เช่น การสูบในที่สาธารณะ อาจถูกปรับไม่เกิน 5,000 บาท, การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 4 เท่าของราคาสินค้า และ การขายหรือผลิตหรือสั่งนำเข้า มีโทษหนักถึงจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับสูงสุด 1 ล้านบาท 

แม้คุณจะเป็นแค่ผู้ใช้ทั่วไปก็อาจถูกดำเนินคดีได้ หากเจ้าหน้าที่ตีความว่าเป็นการช่วยจำหน่ายหรือรับของต้องห้าม จึงควรระวังและเข้าใจสิทธิของตัวเองไว้เสมอ โดยเฉพาะหากถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจหรือจับกุม

แล้วถ้าถูกจับเพราะบุหรี่ไฟฟ้าต้องทำอย่างไร?

หากคุณถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะในฐานะ ผู้ใช้ หรือ ผู้ขาย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตั้งสติและอย่าให้สถานการณ์บานปลาย ขั้นตอนที่ควรทำทันทีมีดังนี้

1. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยไม่ต่อต้าน

อย่าหลีกเลี่ยงการตรวจค้นหรือแสดงท่าทีขัดขืน เพราะจะถูกมองว่าเจตนาหลบหนีหรือมีพฤติกรรมต้องสงสัยเพิ่มขึ้น ควรแสดงความสุภาพ และให้ข้อมูลพื้นฐานเท่าที่จำเป็น เช่น บุหรี่ไฟฟ้ามาจากไหน ซื้อจากใคร (ถ้าจำได้) แต่ ไม่ควรพูดอะไรที่อาจตีความว่าเป็นการรับสารภาพหรือโยงตัวเองเข้ากับการค้า โดยไม่ปรึกษาทนายก่อน

2. ขอใช้สิทธิปรึกษาทนายทันที

คุณมีสิทธิในการติดต่อทนายความตั้งแต่ต้น และควรใช้สิทธินี้เสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่เจ้าหน้าที่เริ่มตั้งข้อกล่าวหา หรือมีการยึดอุปกรณ์ โทรศัพท์ หรือบัญชีโอนเงิน เพราะข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ประกอบคดีในภายหลัง

3. สังเกตและจดจำการดำเนินการของเจ้าหน้าที่

ไม่ว่าจะเป็นหมายค้น หมายจับ หรือการตรวจสอบเอกสารใด ๆ ควรเก็บหลักฐานให้ครบ เช่น ถ่ายภาพใบแจ้งข้อหา หรือขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง และหากมีผู้เห็นเหตุการณ์ ขอเบอร์ไว้เป็นพยานภายหลัง

4. อย่าให้ข้อมูลเท็จเด็ดขาด

การให้ข้อมูลที่ไม่ตรง หรือพยายามกลบเกลื่อน อาจถูกตั้งข้อหาเพิ่ม เช่น ขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือให้การเท็จ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์แย่ลง

5. เตรียมเอกสารและหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเป็นผู้ใช้ทั่วไป (ถ้ามี)

เตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บิลการสั่งซื้อจากแหล่งออนไลน์ที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับการขาย การแสดงว่าไม่มีของจำนวนมากในครอบครอง หรือไม่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการค้า อาจช่วยลดระดับความรุนแรงของคดี

6. ห้ามโพสต์เรื่องราวลงโซเชียลเด็ดขาด

สิ่งที่คุณโพสต์ในช่วงนี้อาจถูกนำมาใช้ในคดีหรือเป็นหลักฐานกลับมาทำร้ายคุณได้ เช่น โพสต์ขายเก่า ๆ หรือแชตกับลูกค้าใน Inbox

ดังนั้น การรับมือกับสถานการณ์นี้ต้องมีสติ และดำเนินการอย่างเป็นระบบ การมีทนายช่วยให้คำปรึกษา จะช่วยลดความเสี่ยง และทำให้คุณรู้สิทธิตัวเอง ไม่ว่าในฐานะผู้ใช้หรือผู้ขาย ทุกคำพูดและการกระทำในช่วงนี้สำคัญมาก

ต้องประกันตัวไหม?

หากถูกตั้งข้อหาและถูกควบคุมตัวไว้ คุณมีสิทธิในการขอประกันตัวระหว่างรอพิจารณาคดี โดยเจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่าจะให้ประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระดับของความผิด หลักฐาน และพฤติกรรมของคุณ โดยทั่วไปแล้ว คดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในฐานะผู้ใช้หรือผู้ขายรายย่อยมักได้รับอนุญาตให้ประกันตัวได้ วงเงินประกันอาจอยู่ที่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน ขึ้นกับแต่ละกรณี หากไม่มีเงินสดทันที ควรติดต่อญาติหรือทนายให้มาดำเนินเรื่องประกันให้เร็วที่สุด

ต้องไปศาลหรือไม่?

หากเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ และมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย คดีจะถูกส่งเข้าสู่กระบวนการศาล ซึ่งคุณจะต้องไปศาลตามนัดหมายเพื่อให้การ หากคุณไม่ไปตามนัด ศาลอาจออกหมายจับซ้ำได้ทันที การมีทนายจะช่วยให้คุณเตรียมเอกสาร คำให้การ และแนวทางต่อสู้คดีได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเป็นผู้ใช้ ไม่ได้มีเจตนาจำหน่ายหรือกระทำเพื่อการค้า อาจมีแนวทางเจรจาเพื่อขอ “รอลงอาญา” หรือ “เปรียบเทียบปรับ” ได้ในบางกรณี

ความผิดที่อาจโดนหากคุณเป็นผู้ใช้หรือผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้า

แม้จะดูเหมือนเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ แต่การใช้หรือขายบุหรี่ไฟฟ้าในไทยยังคงเป็นเรื่องที่ มีโทษทางกฎหมายหลายระดับ ขึ้นอยู่กับบทบาทของคุณว่าเป็น “ผู้ใช้” หรือ “ผู้ขาย” ดังนี้

1. ถ้าคุณเป็น “ผู้ใช้” หรือ “ผู้พกพา” บุหรี่ไฟฟ้า

แม้บางฝ่ายอาจตีความว่า “แค่พก” ไม่ผิดกฎหมายชัดเจน แต่ ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาช่วยซ่อนเร้นหรือรับไว้ซึ่งของผิดกฎหมายได้ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นของนำเข้าโดยผิดกฎหมายศุลกากร โทษสูงสุดคือ

  • จำคุกไม่เกิน 5 ปี
  • หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า
  • หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ถ้าคุณเป็น “ผู้ขาย” หรือ “ผู้สั่งซื้อจำนวนมาก”

คุณอาจเข้าข่าย ขายสินค้าที่ถูกห้ามตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมายศุลกากร ซึ่งมีโทษหนักกว่ามาก เช่น

  • จำคุกไม่เกิน 10 ปี
  • หรือปรับไม่เกิน 500,000–1,000,000 บาท
  • หรือทั้งจำทั้งปรับ และในบางกรณี ศาลสามารถสั่งริบสินค้าและยึดยานพาหนะที่ใช้ขนส่งได้ด้วย

สรุปคือ แม้คุณจะไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าโดยตรง แต่การขาย พก หรือใช้บุหรี่ไฟฟ้าในไทย ก็อาจเข้าข่ายความผิดหลายกระทง ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

เขียนโดย เฮียเจแปน

นักรีวิวบุหรี่ไฟฟ้าชาวไทยที่สนใจและตามหาเรื่องราวในรสชาติและผู้คนที่เกี่ยวโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ผ่านควันบุหรี่แต่ละแบบ

#TAG
บทความที่เกี่ยวข้อง
Categories: ทั่วไป
X